1. เนลสัน แมนเดลา (Nelson Mandela)
อดีตประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของประเทศแอฟริกาใต้ ผู้นำต่อต้านการเหยียดสีผิว โดยวันที่ 18 ของเดือนกรกฎาคมของทุกปี ชาวแอฟริกาจะออกมาร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ หรือทำความดี เพื่อเป็นเกียรติกับเนลสัน แมนเดลา ผู้ที่อุทิศตนเพื่อความสุขของชาวแอฟริกามาโดยตลอด ซึ่งเขาไม่เพียงแต่เป็นวีรบุรุษในใจของชาวแอฟริกาเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลกอีกด้วย
2. อัลเฟรด โนเบล (Alfred Nobel)
นักเคมีชาวสวีเดน ผู้ผลิตและคิดค้นระเบิดไดนาไมท์ขึ้นมา ซึ่งแม้ผลงานของเขาจะนำชื่อเสียงและเงินทองมาสู่ชีวิตของเขาอย่างมากมาย แต่สิ่งที่เขาได้มานั้นต้องแลกกับชีวิตของผู้คนนับพัน และเหตุนี้เองที่ทำให้อัลเฟรด โนเบลตัดสินใจตั้งรางวัลโนเบลขึ้นมาในปี ค.ศ. 1895 เพื่อเป็นเกียรติแก่บุคคลที่ทำผลงานสร้างสรรค์ให้กับโลก โดยแบ่งออกตามสาขาต่าง ๆ ดังนี้ สาขาฟิสิกส์ สาขาเคมี สาขาการแพทย์ สาขาวรรณคดี และด้านสันติภาพ
3. เซอร์ ทิม เบอร์เนอร์ส-ลี (Sir Tim Berners-Lee)
นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ชาวอังกฤษ เป็นคนแรกที่ค้นพบการติดต่อสื่อสารและแชร์ข้อมูลต่าง ๆ ผ่านโลกไซเบอร์ โดยระบบ Hyper Text Transfer Protocol หรือที่เราเรียกกันสั้น ๆ ว่า"HTTP" และเขานี่แหละที่เป็นผู้เปิดประตูให้คนทั่วโลกได้ทำความรู้จักกับโลกไซเบอร์มาจนถึงทุกวันนี้
นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ชาวอังกฤษ เป็นคนแรกที่ค้นพบการติดต่อสื่อสารและแชร์ข้อมูลต่าง ๆ ผ่านโลกไซเบอร์ โดยระบบ Hyper Text Transfer Protocol หรือที่เราเรียกกันสั้น ๆ ว่า"HTTP" และเขานี่แหละที่เป็นผู้เปิดประตูให้คนทั่วโลกได้ทำความรู้จักกับโลกไซเบอร์มาจนถึงทุกวันนี้
4. มหาตมะ คานธี (Mahatma Gandhi)
ผู้นำชาวอินเดียสู่อิสรภาพ หลังจากที่ประเทศอินเดียต้องอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษมานานถึง 70 ปี เขายังเป็นผู้นำอิสรภาพสู่ชาวอินเดียโดยการยกเลิกระบบชนชั้นวรรณะในประเทศอินเดีย และก็ยังเป็นผู้มอบอิสรภาพในการนับถือศาสนาอีกด้วย ด้วยเหตุนี้เองทำให้ชื่อของมหาตมะ คานธีได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ และความสงบสุขของคนทั้งโลก
ผู้นำชาวอินเดียสู่อิสรภาพ หลังจากที่ประเทศอินเดียต้องอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษมานานถึง 70 ปี เขายังเป็นผู้นำอิสรภาพสู่ชาวอินเดียโดยการยกเลิกระบบชนชั้นวรรณะในประเทศอินเดีย และก็ยังเป็นผู้มอบอิสรภาพในการนับถือศาสนาอีกด้วย ด้วยเหตุนี้เองทำให้ชื่อของมหาตมะ คานธีได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ และความสงบสุขของคนทั้งโลก
5. มิคาอิล กอร์บาชอฟ (Mikhail Gorbachev)
อดีตประะธานาธิบดีของสหภาพโซเวียต และยังเป็นผู้นำคนสุดท้ายที่ปกครองด้วยระบบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ เพราะหลังจากที่เขาทำการปฏิรูปการปกครองก็ทำให้สหภาพโซเวียตล่มสลายลง แต่วีรกรรมอันยิ่งใหญ่ที่เขาได้ฝากไว้ก็คือ การรวมชาติเยอรมนีเข้าด้วยกัน และเป็นหนึ่งในผู้ยุติสงครามเย็น ซึ่งทำให้โลกกลับมาสงบสุขขึ้นอีกครั้ง และจากสองเหตุการณ์นี้เองที่ทำให้เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปี ค.ศ. 1990
อดีตประะธานาธิบดีของสหภาพโซเวียต และยังเป็นผู้นำคนสุดท้ายที่ปกครองด้วยระบบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ เพราะหลังจากที่เขาทำการปฏิรูปการปกครองก็ทำให้สหภาพโซเวียตล่มสลายลง แต่วีรกรรมอันยิ่งใหญ่ที่เขาได้ฝากไว้ก็คือ การรวมชาติเยอรมนีเข้าด้วยกัน และเป็นหนึ่งในผู้ยุติสงครามเย็น ซึ่งทำให้โลกกลับมาสงบสุขขึ้นอีกครั้ง และจากสองเหตุการณ์นี้เองที่ทำให้เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปี ค.ศ. 1990
6. อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein)
นักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกด้วยการค้นพบทฤษฎีสัมพันธภาพ และเขาก็ยังถูกยกย่องว่า เป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎีที่มีอิทธิพลต่อวงการวิทยาศาสตร์มากที่สุดในยุคปัจจุบันอีกด้วย และถึงแม้เขาจะเสียไปแล้ว แต่ทฤษฎีของเขาก็ยังคงเป็นที่จดจำ และเป็นทฤษฎีที่น่าสนใจของนักฟิสิกส์ทั่วโลกต่อไป
นักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกด้วยการค้นพบทฤษฎีสัมพันธภาพ และเขาก็ยังถูกยกย่องว่า เป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎีที่มีอิทธิพลต่อวงการวิทยาศาสตร์มากที่สุดในยุคปัจจุบันอีกด้วย และถึงแม้เขาจะเสียไปแล้ว แต่ทฤษฎีของเขาก็ยังคงเป็นที่จดจำ และเป็นทฤษฎีที่น่าสนใจของนักฟิสิกส์ทั่วโลกต่อไป
7. เอลวิส เพรสลีย์ (Elvis Presley)
นักดนตรีและนักแสดงชาวอเมริกัน หรือที่เรารู้จักกันในฉายา "ราชาแห่งร็อคแอนด์โรล" เพราะไม่ว่าจะเป็นการเต้นหรือการร้องเพลง เขาก็สามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างลึกซึ้งกินใจ และยังเป็นสัญลักษณ์ของวงการดนตรีในยุคนั้นอีกด้วย
นักดนตรีและนักแสดงชาวอเมริกัน หรือที่เรารู้จักกันในฉายา "ราชาแห่งร็อคแอนด์โรล" เพราะไม่ว่าจะเป็นการเต้นหรือการร้องเพลง เขาก็สามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างลึกซึ้งกินใจ และยังเป็นสัญลักษณ์ของวงการดนตรีในยุคนั้นอีกด้วย
8. มาร์ติน ลูเธอร์ คิง (Martin Luther King)
นักบุญชาวอเมริกา ผู้เดินตามรอยมหาตมะ คานธี เขาเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการเรียกร้องสิทธิมนุษยชน เพื่อร่วมต่อต้านการเหยียดสีผิวในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยในปี 1964 เขาได้รับรางวัลโนเบล ในสาขาสันติภาพ เพื่อเป็นรางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติให้กับสิ่งที่เขาได้ทำเพื่อประชาชน และเพื่อเป็นการระลึกถึงคุณงามความดีของเขา ทางการสหรัฐฯ จึงได้จัดตั้งให้มีวัน มาร์ติน ลูเธอร์ คิง เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ของประเทศสหรัฐอเมริกา นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1986 เป็นต้นมา
นักบุญชาวอเมริกา ผู้เดินตามรอยมหาตมะ คานธี เขาเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการเรียกร้องสิทธิมนุษยชน เพื่อร่วมต่อต้านการเหยียดสีผิวในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยในปี 1964 เขาได้รับรางวัลโนเบล ในสาขาสันติภาพ เพื่อเป็นรางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติให้กับสิ่งที่เขาได้ทำเพื่อประชาชน และเพื่อเป็นการระลึกถึงคุณงามความดีของเขา ทางการสหรัฐฯ จึงได้จัดตั้งให้มีวัน มาร์ติน ลูเธอร์ คิง เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ของประเทศสหรัฐอเมริกา นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1986 เป็นต้นมา
9. วิลเลียม เช็กสเปียร์ (William Shakespeare)
นักประพันธ์ชื่อก้องโลกชาวอังกฤษ ผู้สามารถถ่ายทอดอารมณ์ผ่านงานเขียนได้สละสลวย อย่างไม่มีที่ติ โดยเขาสามารถเปลี่ยนโลกให้มองเห็นถึงความสวยงามของชีวิตได้ด้วยมหากาพย์ที่สะท้อนถึงตัวตนของมนุษย์ ที่เต็มไปด้วยกิเลส ความรัก ความหลงใหล และการทรยศ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ยังคงเป็นคติสอนใจมาจวบจนถึงปัจจุบัน และเขาก็ยังแสดงให้เห็นว่าศิลปะนั้นไม่ใช่แค่การวาดรูปเท่านั้น แต่ศิลปะยังสามารถถ่ายทอดอารมณ์ออกมาเป็นตัวอักษรได้อีกด้วย
นักประพันธ์ชื่อก้องโลกชาวอังกฤษ ผู้สามารถถ่ายทอดอารมณ์ผ่านงานเขียนได้สละสลวย อย่างไม่มีที่ติ โดยเขาสามารถเปลี่ยนโลกให้มองเห็นถึงความสวยงามของชีวิตได้ด้วยมหากาพย์ที่สะท้อนถึงตัวตนของมนุษย์ ที่เต็มไปด้วยกิเลส ความรัก ความหลงใหล และการทรยศ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ยังคงเป็นคติสอนใจมาจวบจนถึงปัจจุบัน และเขาก็ยังแสดงให้เห็นว่าศิลปะนั้นไม่ใช่แค่การวาดรูปเท่านั้น แต่ศิลปะยังสามารถถ่ายทอดอารมณ์ออกมาเป็นตัวอักษรได้อีกด้วย
10. โอลิเวอร์ ครอมเวลล์ (Oliver Cromwell)
อดีตแม่ทัพฝ่ายรัฐสภาที่ได้รับชัยชนะเหนือกองทัพของพระเจ้าชาร์ลส์ ที่ 1 ในเหตุการณ์สงครามกลางเมืองของอังกฤษ และหลังจากนั้นเขาก็ได้เปลี่ยนรูปแบบการปกครองของอังกฤษเป็นแบบสาธารณรัฐ ถึงแม้เขาจะปกครองประเทศอังกฤษเพียงระยะเวลาสั้น ๆ แต่แนวคิดของเขากลับเป็นจุดเริ่มต้นของการปกครองระบอบประชาธิปไตยในเวลาต่อมา
อดีตแม่ทัพฝ่ายรัฐสภาที่ได้รับชัยชนะเหนือกองทัพของพระเจ้าชาร์ลส์ ที่ 1 ในเหตุการณ์สงครามกลางเมืองของอังกฤษ และหลังจากนั้นเขาก็ได้เปลี่ยนรูปแบบการปกครองของอังกฤษเป็นแบบสาธารณรัฐ ถึงแม้เขาจะปกครองประเทศอังกฤษเพียงระยะเวลาสั้น ๆ แต่แนวคิดของเขากลับเป็นจุดเริ่มต้นของการปกครองระบอบประชาธิปไตยในเวลาต่อมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น